กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องมิตรรักนักอ่านและนักต่อโมเดลทุก ๆ ท่านครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Gunpla Story กับกระผม นาย Gold Sainte ครับ ในวันนี้เราก็จะเข้าสู่การสรุปนิยาย EP.5 เรื่องวุ่นวายของฮาธาเวย์สและการมุ่งหน้าสู้โอเอนเบริ ซึ่งจะเข้าสู่เนื้อหาในนิยายเล่มที่ 2 กันแล้ว โดยเนื้อหาทั้งหมดจะอ้างอิงจาก นิยาย โมบิลสูทกันดั้ม ฮาธาเวย์ส แฟลช เล่มที่ 2 ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อมาจาก Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash เล่มที่ 1 และในเนื้อเรื่องส่วนนี้จะล้ำหน้าเนื้อหาในภาพยนต์แอนิเมชั่นตอนที่ 1 ไปแล้วนะครับ (แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าเนื้อหาในนิยายเล่ม 2 นี้ เมื่อเทียบกับภาพยนต์แอนิเมชั่นตอนที่ 2 แล้วจะมีความเหมือนหรือแต่กต่างกันอย่างไร ?) ส่วนเพื่อน ๆ ที่พร้อมติดตามเรื่องราวในนิยายว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร ก็ขอให้ตามข้าพเจ้ามาเลยขอรับ
บทสนทนากับตัวเองของเด็กสาว
ณ เรือนรับรองหลังเล็กหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากฐานทัพในดาเวาพอสมควร กิกิ แอนดาลูเซีย พักอยู่ที่นี่ตามคำเชิญชวนของ พันเอก เคเนธ เสลก ผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของหน่วยคีย์เค ตอนนี้เป็นเวลาใกล้พลบค่ำ กิกิ ที่พึ่งอาบน้ำเสร็จก็ออกมายืนรับลมทะเลที่ริมระเบียงพร้อมกับเฝ้ามองดวงอาทิตย์อัสดง เด็กสาวทอดสายตายาวไปยังอีกฝากของท้องทะเล
พอคิดว่า ชายหนุ่มที่เคร่งครัดกับเรื่องหยุมหยิมแต่กลับปราดเปรียวและคล่องแคล่วคนนั้นอยู่ที่อีกฝากหนึ่งของท้องทะเล มันทำให้กิกิรู้สึกตื่นเต้นอย่างน่าปะหลาด แต่ทว่าไม่ห่างจากที่เรือนรับรองนี้ ในฐานทัพของดาเวา มีพันเอก เคเนธ เสลก ชายผู้เข้มงวดและเด็ดขาดที่กลายเป็นศัตรูที่แข็งเกร่งของฮาธาเวย์คอยบัญชาการรบอยู่ สำหรับกิกิที่ทำได้เพียงขายเรือนร่างให้ชายแก่เพื่อมีชีวิตรอดแล้ว การได้เฝ้ามองผู้ชายทั้งสองคนนี้เป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง แต่ถึงจะพูดแบบนั้น กิกิเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามอง มันทำให้กิกิไม่สบายใจ เพราะสถานะของตัวเธออาจถูกดึงเข้าไปพัวพันกับปัญหาที่อาจจะเกิดตามมา แต่ถึงกระนั้น สถานะของกิกิที่อยู่ตรงกลางระหว่าง ฮาธาเวย์และเคเน กลับทำให้กิกิตื้นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
ธ
การตัดสินใจของกิกิ
หลังจากกิกิตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ คุณป้าแม่บ้านก็นำอาหารและของใช้อื่น ๆ มาบริการกิกิที่ห้อง หลังจากนั้นกิกิก็เปิดโทรทัศน์เพื่อรับชมรายการข่าว กิกิต้องการรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ เพื่อที่ในอนาคต ในสถาณการณ์ที่ถูกบีบให้ต้องตัดสินใจ จะได้มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาด แต่ทว่าสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดคือการเปิดรายการข่าวดู เพราะสำนักข่าวที่ดาเวานั้น เอาแต่อ่านข่าวเดิมซ้ำ ๆ อย่างเช่น ผู้บัญชาการคนใหม่ พันเอกเคเนธ เสลก เข้ารับตำแหน่งแล้ว หรือ ข่าวการเปลี่ยนชื่อหน่วยปฎิบัติการจาก หน่วยคิมเบอลี่ย์ เป็น หน่วยคีย์เค ส่วนข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงหรือข่าวที่มีผลเป็นลบกับรัฐบาลและกองทัพ กลับถูกปิดเงียบเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
อันที่จริงถ้ากิกิอยากได้ข้อมูลจริง ๆ แค่ไปขอร้องเคเนธให้จัดหาโรงแรมใกล้ ๆ ฐานทัพแล้วค่อย ๆ ลวงเอาข้อมูลมาก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันเหมือนว่า กิกิ ยอมขายตัวให้เคเนธ เพราะเหตุนี้กิกิถึงเลือกที่จะยอมรับคำำเชิญชวนให้มาอยู่เรือนรับรองที่ห่างออกมาจากฐานทัพ
กิกิปิดโทรทัศน์แล้วพยายามรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ และประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ การที่รัฐบาลสหพันธ์โลกมีคำสั่งโยกย้าย เคเนธและกันดั้มรุ่นใหม่ ลงมาที่โลกอย่างกะทันหันนั้น เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะในระยะหลังมานี้ องค์กรต่อต้านรัฐบาบสหพันธ์โลก มัฟตี้ นบียู เอริน ได้การเคลื่อนไหวที่ชัดเจนและแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น และอีกผลหนึ่งคือการประชุมใหญ่ของคณะรัฐบาลสหพันธ์โลกที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ แอดิเลด เคเนธถูกย้ายลงมาเพื่อเสริมแนวป้องกันการประชุมครั้งนื้ เพราะเคเนธเองมีแนวความคิดป้องกันแอดิเลด
ส่วน พันเอก คิมเบอลี่ย์ เฮย์แมน ผู้บังคับบัญชาหน่วยคนเก่าตอนนี้กำลังนำหน่วยคิมเบอลี่ย์ ออกไปปะทะกับกลุ่มคนที่อ้างชื่อมัฟตี้ที่มารวมตัวกันที่เมือง โอเอนเบริ เมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของทวีปออสเตเลีย คิมเบอลี่ย์ต้องการสร้างผลงานสักชิ้นก่อนถูกย้ายกลับไปอวกาศ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาถูกมัฟตี้ปั่นหัวและล้มเหลวในการปฎิบัติหน้าที่มาโดยตลอด
อีกฝากของทะเลคือทวีปออสเตเลีย กิกิได้แต่คิดว่า ฮาธาเวย์ น่าจะไปสมทบกับกองกำลังที่โอเอนเบริ ยิ่งกิกิได้ยินข่าวลือว่า เพเนโลเปถูกเล่นงานโดยกันดั้มรุ่นใหม่ ยิ่งทำให้กิกิเชื่ออย่างยิ่งว่าเป็นฝีมือของฮาธาเวย์แน่ ๆ แม้ว่าเคเนธเองก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรที่สามารถยืนยันได้ว่านักบินของกันดั้มเครื่องนั้นคือฮาธาเวย์์ก็ตาม
ในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของกิกิที่มีต่อ ฮาธาเวย์และเคเนธนั้นยังไม่ชัดเจน สิ่งที่กิกิทำได้คือการยืนอยู่ตรงกลางและเว้นระยะจากทั้งสองฝ่าย นั่นคือสถานะของคนทั้งสามในเวลานี้
การสื่อสารที่ผิดปรกติ
ในทะเลแปซิฟิค เรือขนส่งวาเลียนของมัฟตี้กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังตอนเหนือของทวีปออสเตเลีย เพื่อเข้าตรวจสอบการสู้รบที่เมืองโอเอนเบริ โดยตลอดช่วง 2-3 วันมานี้มีการพยายยามติดต่อขอความช่วยเหลือจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่มารวมตัวกันโดยอ้างชื่อมัฟตี้ สาเหตุก็เพราะ พันเอก คิมเบอลี่ย์ เฮเมน ได้นำหน่วยโมบิลสูทเข้าปราบปรามผู้ต่อต้านในพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้นเมื่อฮาธาเวย์และพรรคพวกสามารถรับตัว คซีกันดั้มมาได้ตามแผนการแล้ว พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังโอเอนเบริเพื่อตรวจสอบทันที เพราะถึงแม้กองกำลังต่อต้านที่โอเอนเบริจะเป็นกองกำลังที่แอบอ้างชื่อมัฟตี้ แต่ฮาธาเวย์และมัฟตี้เองก็ไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปเฉย ๆ ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดไว้ก่อน
ในห้องสื่อสารเล็ก ๆ บนเรือวาเลี่ยน ฮาธาเวย์กำลังพูดคุยอยู่กับ ชาติชาย, โคลแมนและโจเซฟ เซดี้ เรื่องเกี่ยวกับความผิดปรกติของการสื่อสาร เรื่องแรกคือ การติดต่อจากทางโอเอนเบรินั้นขาดหายไปสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะถูกกวาดล้างไปแล้ว และอีกเรื่องคือ ทั้งชาติชายและโจเซฟ สามารถดังฟังสัญญาณสื่อสารของกองทัพสหพันธ์ได้เป็นจำนวนมาก ชาติชายยื่นแฟ้มข้อมูลให้ฮาธาเวย์ได้ดู ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่กลับมีการติดต่อสื่อสารจำนวนมากกว่าปรกติจากฐานทัพดาเวาในฟิลิปินส์ ไปยังฐานทัพกวางโจวในจีน และฐานทัพฮ่องกง โดยดักฟังใจความการสื่อสารได้ประมาณว่ามีคำสั่งให้รวบรวมหน่วยภาคพื้นดิน ตำรวจ และสตาร์ฟฝ่ายต่าง ๆไปที่ฐานทัพกวางโจว
“เพราะเหตุความวุ่นวายที่โอเอนเบริ เหตุการณ์ไฮแจ็คยานฮาวเซน และการจู่โจมที่ดาเวา ด้วยปัจจัยแวดล้อมและสถาณการที่วุ่นวายแบบนี้ ทางสหพันธ์เลยคิดที่จะย้ายสถานที่ประชุมใหญ่ข้าราชการและคณะรัฐมนตรี จากแอดิเลดไปที่กวางโจวแทนสินะ มันดูสมเหตุสมผลและทุกอย่างมันดูลงตัวมากจนเกินไปสินะ” ฮาธาเวย์กล่าว
“ทั้งกัปตัน และ อิแรม ต่างก็คิดในทำนองเดียวกันนี่แหละ ว่ามันดูเหมือนจงใจให้เป็นแบบนั้นมากเกินไป” ชาติชายกล่าว
“ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ต้องพยายามดักฟังสัญญาณของศัตรูต่อไปนะ” ฮาธาเวย์กล่าว
“คิดว่านี่จะเป็นแผนลวงของศัตรูจริงๆเหรอ” โจเซฟเอ่ยถาม
“มันดูผิดปรกติ ที่การสื่อสารข้อมูลอันเป็นความลับ ถูกดักจับสัญญาณได้ง่ายและมากเกินไป” ฮาธาเวย์กล่าว พลางเดินออกจากห้องสื่อสารไปยังดานฟ้าที่เก็บโมบิลสูท เพื่อเตรียมออกปฎิบัติการ
ในใจฮาธาเวย์เชื่อมั่นอย่างแน่นอนว่าการสื่อสารที่ดักฟังได้เป็นข่าวลวงของศัตรู การสื่อสารที่ดักฟังได้นี้ต้นทางมาจากดาเวา และคนที่บัญชาการอยู่ตอนนี้คือ เคเนธ คนที่ละเอียดรอบคอบอย่างร้ายกาจแบบเคเนธ ไม่มีทางปล่อยให้การสื่อสารที่เป็นความลับถูกดักฟังได้ง่ายๆแน่นอน ในทางกลับกัน ถ้าการสื่อสารนี่ถูกดักฟังได้ง่ายๆ นั่นหมายความว่าเคเนธจงใจให้มันถูกดักฟัง ข้อมูลในการสื่อสารเป็นแผนลวงเพื่อสร้างความสับสน หลังออกจากห้องสื่อสารมายังดานฟ้าทีใช้เก็บ คซีกันดั้ม ฮาธาเวย์ก็ได้ตรวจสอบความพร้อมของโมบิลสูทก่อนออกปฎิบัติการกับนายช่างแม็คซิมิเลี่ยน หลังจากคุยกันเสร็จ แม็กซิมิเลี่ยนก็หายเข้าไปยังโรงซ่อมบำรุง
“ฮาธา” มีเสียงเรียกของหญิงสาวดังมาจากข้างหลัง
คนที่เรียกฮาธาเวย์ด้วยชื่อ ฮาธา มีอยู่เพียงไม่กี่คน เมื่อฮาธาหันกลับไปดู ก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งฮาธาเวย์รู้จักเป็นอย่างดี เธอคือ เคเรีย เดส หญิงสาวที่ครั้งนึงเคยเป็นคนรักของฮาธาเวย์
เคเรีย เดส หญิงสาวอีกคนในอดีตของฮาธาเวย์ส
หญิงสาวที่ชื่อว่าเคเรีย เดส (Kelia Dace) เธอแต่งกายด้วยชุดที่ดูทะมัดทะแมงราวกับเป็นเด็กผู้ชาย ประกอบกับการที่เธอตัดผมสั้น (สั้นม๊าก ๆ) ยิ่งทำให้เธอคลายผู้ชายเข้าไปใหญ่ แต่ทว่าด้วยใบหน้าที่คมสวยได้รูปทำให้มองยังไงก็รู้ว่าเป็นผู้หญิง แต่เดิมถ้ายานฮาวเซนไม่ได้ถูกไฮแจ็ค และลงจอดที่ฮ่องกงตามกำหนด เคเรียก็คือคนนำทางที่จะไปรับฮาธาเวย์ แต่เมื่อสถานการเปลี่ยนไป ทำให้เคเรีย เลือกที่จะตามมาสมบทที่วาเลี่ยนแทน
“จะออกไปอีกเหรอ” เคเรียเอ่ยถามพลางเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าฮาธาเวย์
“พวกเราต้องตรวจสอบให้แน่ใจ ถึงสิ่งที่คิมเบอลี่ย์กำลังทำอยู่ ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและการเคลื่อนไหวในอนาคต” ฮาธาเวย์ตอบออกไปพร้อมกับคิดในใจว่า คงถูกโกรธแน่ๆ
“ในความคิดของคุณนี่ มีแต่คำวาอุดมการณ์จริงๆสินะ เพราะแบบนี้ไงคุณถึงกลายเป็นมัฟตี้ รู้ตัวไหม” เคเรียติงฮาธาเวย์ด้วยความเป็นห่วง
“สำหรับองค์กรที่มีพละกำลังไม่เพียงพอ มันก็ต้องมีใครสักคนเป็นคนลงมือทำ มันเป็นสิ่งจำเป็น” ฮาธาเวย์กล่าว
“จะบอกว่าฝ่ายที่ผิดคือองค์กรงั้นเหรอ” เคเรียเริ่มซักไซ้
“เกี่ยวกับเด็กที่ชื่อกิกิคนนั้น มีอะไรงั้นเหรอ” เเคเรียยิงคำถามใส่ฮาธาเวย์
“ก็แค่เรื่องคาใจนะ ไปพัวกันกับเด็กผู้หญิงที่ดูอันตราย แต่ยังไม่ทันที่จัดการอะไรให้เรียบร้อยก็ต้องมาขับกันดั้มเสียก่อน” ฮาธาเวย์ตอบคำถามเหมือนๆกับที่บอกคนอื่นๆ
“คำตอบแบบนั้นนะ ฉันเคยฟังแล้ว” เคเรียตอบกลับสั้น ๆ แต่เจ็บแสบ
“ก็มันเรื่องจริงนี่นา” ฮาธาเวย์ตอบด้วยน้ำเสียงลุกลี้ลุกลน สภาพของฮาธาเวย์ตอนนี้เหมือนสามีที่ถูกภรรยาจับได้ว่านอกใจแอบไปมีเล็กมีน้อยนอกบ้าน
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่คนที่พูดโกหก แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็สามารถจบเรื่องนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องโกหกนี่นะ” เคเรียกล่าว
คำพูดของเธอเสียดแทงใจดำฮาธาเวย์ได้อย่างเจ็บแสบ ฮาธาเวย์หลบสายตาของเคเรียแล้วเดินตรงไปที่กันดั้มทันที
“เกลียดฉันแล้วอย่างงั้นเหรอ ฮาธา” เคเรียเอ่ยถามตามหลังฮาธาเวย์ไป
“เรื่องมันไม่ได้ง่าย ขนาดที่จะบีบทุกอย่างให้อยู่ในตัวเลือกเพียง ชอบ หรือ เกลียดได้ แต่ถ้ามาจู้จี้วุ่นวายมากๆเข้า ของที่เคยชอบ มันก็เกลียดได้นะ ” ฮาธาเวย์ปากลั่นพูดออกไป แล้วก็ต้องมานึกเสียใจทีหลังว่าไม่ควรพูดประโยคนี้ออกไปเลย นี่สินะสิ่งที่เรียกว่าการพลั้งปาก
“โทษที แต่ตอนนี้ขอจัดการกับงานก่อนนะ” ฮาธาเวย์กล่าวเพื่อตัดบทสนทนาที่น่าอึดอัดนี้
ฮาธาเวย์มองดูเคเรียเดินจากไป หลังคอของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ การที่ฮาธาเวย์รู้สึกประหม่าแกมรู้สึกผิดที่ต้องคุยกับเคเรียแบบนี้ เป็นเพราะกิกิอย่างไม่ต้องสงสัย การปรากฏตัวของกิกิส่งผลกระทบต่อจิตใจฮาธาเวย์อย่างมาก มันทำให้ช่องว่างระหว่างฮาธาเวย์และเคเรียกว้างขึ้นกว่าเดิม
ฮาธาเวย์ส โนอา เด็กหนุ่มผู้มีอดีต
ในอดีตของฮาธาเวย์ หลังจากจบสงครามจลาจลของชาร์ แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ต้องรับผิดจากการฝ่าผืนระเบียบกองทัพนำโมบิลสูทเข้าแทรกแซงการรบโดยพลการ แต่เพราะผลกระทบทางจิตใจทำให้เขากลายเป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก เขาได้เห็นคนที่รู้จักหลายคนตายไปในสงคราม ได้ฟังเสียงในวาระสุดท้ายของเหล่าผู้คนในสนามรบ และที่หนักหนาที่สุด คือการเหนี่ยวไกสังหารเควส พารายา ด้วยมือตัวเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาจมอยู่กับสิ้นหวังตลอดเวลา แพทย์ที่รักษาให้ความเห็นว่า สำหรับฮาธาเวย์ที่เกิดบนโลก การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของโลกสามารถช่วยบำบัดอาการของเขาได้ ไบรท์ โนอา ผู้เป็นพ่อจึงใช้เส้นสายส่งตัวลงมาบำบัดที่ฮ่องกงพร้อมกับศึกษาด้านพันธุ์พืชควบคู่ไปด้วย จังหวะนี้เองที่ฮาธาเวย์ได้พบกับเคเรีย เดส
เคเรีย พักอยู่อาพาตเมนท์ห้องข้าง ๆ เธอเปรียบเสมือนแพทย์ประจำตัวของฮาธาเวย์ การยื่นมือเข้ามาของเคเรีย ทำให้จิตใจของเขาเริ่มคงที่และดีขึ้น เริ่มมองเห็นด้านดีของชีวิตและมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ เคเรียคือคนที่ฉุดมือฮาธาเวย์ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของชีวิต หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินทางไปเรียนรู้การเป็นนักสังเกตการณ์พันธุ์พืช กับศาสตราจารย์แมนสัน อามาดะ ที่เมืองมานาโดบนเกาะสุลาเวสี เคเรียก็ยังแวะเวียนมาหาอยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงคบหากัน และไปถึงขั้นใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ทั้งคู่ไม่สามรถแต่งงานกันได้เพราะเคเรียเป็นผู้พักอาศัยอย่างผิดกฎหมายบนโลก นั่นเป็นเหตุผลและข้องอ้างในคำเดียวกัน ที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่สามารถไปได้ไกลกว่านั้นได้ ฮาธาเวย์รู้อยู่แก่ใจดีว่าเป็นเพราะตัวเขาเองยังไม่สามารถลืมเด็กผู้หญิงที่ชื่อ เควส พารายา ได้ ความรู้สึกทีมีต่อเควสนั้นคือความรัก แต่ความรู้สึกที่ฮาธาเวย์มีต่อเคเรีย คือความรู้สึกขอบคุณและรู้สึกว่าตัวฮาธาเวย์ติดค้างเคเรียอยู่ นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาสาบานกับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่โกหกเเคเรียเด็ดขาด
เหตุผลที่เลิกลา
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฮาธาเวย์และแคเรียเว้นระยะห่างจากกัน จนเลิกราในที่สุด ก็เพราะการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมองค์กร มัฟตี้ นบียู เอริน (Mufti Nabiyu Erin) ตามคำชักชวนของ เควค ซันเวอร์ ชายชราเจ้าเลห์ผู้ใช้โคดเนมหมอลวงโลกคนนี้ เป็นเพื่อนกับศาสตราจารย์ แมนสัน ฮาธาเวย์พบเข้าที่มานาโด ตอนแรกเคเรียก็ดีใจที่ฮาฑาเวย์ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับมัฟตี้ เพราะนั่นหมายความว่าฮาธาเวย์ก็จะกลายเป็นคนนอกกฎหมายเหมือนเธอที่พักพิงอยู่บนโลกอย่างผิดกฏหมาย และจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ทว่าเคเรียคิดผิด หลังจากฮาธาเวย์เข้าร่วมองค์กรมัฟตี้ได้ราวหนึ่งปี ด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า ฮาธาเวย์ก็กลายเป็นแกนนำและกำลังรบหลักของมัฟตี้ นั่นทำให้ยิ่งห่างไกลจากเคเรียมากกว่าเดิมเสียอีก สุดท้ายเคเรียก็เข้าร่วมมัฟตี้ด้วย โดยเป็นผู้ให้ความร่วมมือในพื้นที่ ที่กล่าวมานี้คืออดีตของฮาธาเวย์และเคเรีย
ฮาธาเวย์ ไม่ปฎิเสธอดีตเหล่านี้ เพราะมันคือเรื่องจริงที่ส่งให้เขาก้าวมายืนในจุดนี้ได้ ปัญหาคือต่อจากนี้ เขาควรจะจัดการอย่างไรดี กับความรู้สึกภายในใจทีมีต่อเด็กสาวที่ชื่อว่า กิกิ แอนดาลูเซีย
เหล่ากันดั้มพร้อมออกตัว
ซีลัค คือชื่อเรือขนส่งแร่ที่ถูกดัดแปลงให้ใช้สามารถใช้สนับสนุกอากาศยาน โดยเน้นไปที่การซับพอร์ท กาเซซอน และ เบสเจบเบอร์ เป็นหลัก เรือซีลัคในขณะนี้กำลังแล่นคู่ไปกับวาเรียนเพื่อสนับสนุกการเข้าตรวจสอบสนามรบโอเอนเบริ นอกจากซีลัคแล้ว ยังมีเรือดัดแปลงสนับสนุนอากาศยานอีก 2 ลำ ลอยลำอยู่ไกลออกไปทางใต้ ทั้งหมดนี่คือการสนับสนุน ที่มาจาก เควค ซันเวอร์
แนะนำกันพลา HGUC 1/144 RX-105 XI [ Ξ ] Xi Gundam เป็น Gundam เครื่องประจำตัวของฮาธาเวย์ โนอา ชื่อ [ Ξ ] ของมันมาจากภาษากรีก ซึงออกเสียงได้หลากหลายมาก ทั้ง ไซ ซาย คุชี่ คุชิอิ คซี เป็น Mobile suit เครื่องที่ 2 ที่ใช้เทคโนเลยีไมนอฟสกี้คราฟ เหมือนกับ RX-104FF Penelope ทำให้สามารถบินได้อย่างอิสระในชั้นบรรยากาศเช่นกัน เป็นหัวหอกสำคัญของมัฟตี้ และ มักเข้าปะทะกับ RX-104FF Penelope ในสมรภูมิกลางเวหาอยู่เสมอ
ทั้งวาเรียนและซีลัค แล่นผ่านทะเลติมอร์ลงไปทางใต้ เข้าใกล้เกาะแบร์เธิร์สซึ่งเป็นเกาะทางตอนเหนือของทวีปออสเตเลีย เมื่อถึงพิกัดที่จะเริ่มแผนการณ์ ซีลัคได้ติดต่อมาทางวาเรียนเพื่อรายงานความพร้อม ในขณะนี้ กาเซซอนจากทางซีลัคพร้อมออกตัวทุกเมื่อ บริงค์ส เวจด์ ผู้มีตำแหน่งกัปตันได้สอบถามถึงความพร้อมของกันดั้มกับอิแรมที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่เก้าอี้รองกัปตัน หลังจากสอบถามไปยังฮาธาเวย์แล้วอิแรมจึงรายงานสถานะความพร้อมของกันดั้มให้กัปตันทราบ ทางกัปตันจึงให้ กาเซซอนและแมสเซอร์ออกตัวไปก่อน กัปตัน บริงค์ส หยิบหมวกที่แสดงถึงความเป็นกัปตันขึ้นมาสวมแล้วให้สัญญาณปล่อยตัว เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่องค์กรที่ชื่อว่า มัฟตี้นั้น ไม่มีระบบชั้นยศ หรือตำแหน่ง สมาชิกทุกคนเท่าเทียมกัน สิ่งที่กำหนดบทบาทของทุกคนคือหน้าที่ที่ตนเองได้รับ ทำให้บรรยากาศของกองกำลังมัฟตี้ไม่เหมือนกองทหารสักเท่าไร แต่ในอนาคตถ้าหากองค์กรใหญ่ขึ้น มีผู้เข้าร่วมที่มากขึ้น และหากมาถึงวันที่มัฟตี้ จำเป็นต้องมีลำดับยศขึ้นมา มัฟตี้ก็อาจเป็นองค์กรที่ไม่ต่างอะไรจากสหพันธ์โลกในปัจจุบัน
แมคคานิคแมน จูเลีย สึกะ (Julia Suga)
ในขณะที่กาเซซอนจากซีลัคและวาเลียนกำลังออกตัวอยู่นั่นเอง ในโรงซ่อมบำรุง XI [ Ξ ] Xi Gundam หรือ คซีกันดั้ม ยังคงอยู่ระหว่างการปรับแต่งขั้นสุดท้ายซึ่งยังไม่เสร็จเรียบร้อย
“ใกล้เสร็จรึยัง จูเลีย เร่งหน่อย” ฮาธาเวยที่อยู่ในห้องนักบินของคซีกันดั้มตะโกนถาม
“จะเสร็จแล้วน่า เร่งจัง” แมคคานิคแมน จูเลีย สึกะ ตะโกนตอบพร้อมกับยืนขึ้นจากบริเวณส่วนสะโพกของกันดั้ม
จูเลีย สึกะ (Julia Suga) คือช่างแมคคานิคที่รับผิดชอบในการปรับแต่งคซีกันดั้ม เธอเป็นหญิงสาวผิวสีแทนที่ดูทะมัดทะแมง สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น รอบเอวคาดเข็มขัดช่างอันใหญ่ที่มีเครื่องมือช่างเสียบอยู่เต็มไปหมด เธอเดินมายังห้องนักบินที่ฮาธาเวย์อยู่เพื่อตรวจเช็คขั้นสุดท้าย
“ผมเคยบอกไปแล้วไงจูเลีย อย่างน้อยก็ช่วยใส่เสื้อเชิ้ตสักหน่อยก็ยังดี” ฮาธาเวยพูดขึ้นด้วยอาการเขินอายเมื่อเนินอกของจูเลียเข้ามาอยู่ในระดับสายตาพอดี
“ชั่งเรื่องเสื้อไปก่อนเถอะ แผนการหยาบๆที่ขาดความรอบคอบแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่สามารถรู้ได้เลยนะ” จูเลียไม่สนใจคำพูดของฮาธาเวย์และยิงคำถามของตัวเองด้วยสีหน้าปรกติ เหมือนเธอจะไม่สนใจเรื่องหน้าอกของเธอเลย
“ถ้าจัดการได้ก่อนที่กำลังเสริมจากดาเวาจะมา ก็ยังเป็นไปตามแผน สายตาของศัตรูก็จะมองไปไม่ถึงกำลังเสริมของเรา” ฮาธาเวย์ตอบ
“แต่ไอ้การลงมือก่อนได้เปรียบนี่ มันใช่ว่าจะได้ผลเสมอไปนะ ศัตรูเองก็มีพวกที่มีหัวคิดอยู่ไม่ใช่เหรอ” จูเลียกล่าว
“ผมเข้าใจดี แต่ถ้าไม่ตรวจสอบกองกำจัดตั้งที่โอเอนเบริกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้แน่ใจด้วยสายตาของพวกเราเอง มันก็ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องแผนการในลำดับถัดไปได้ และที่สำคัญ ขอร้องละ ช่วยใส่เสื้อสักทีเถอะ” ฮาธาเวย์พูดไปหลบตาไป พยายามไม่มองไปที่หน้าอกของจูเลียที่อยู่ตรงหน้า
“แบบว่าฉันไม่ชอบแนวคิดที่ว่ามีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่ท๊อปเลสได้นะ ฉันก็เป็นของฉับแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เป็นไงบ้างละ หน้าอกของฉันเต่งตึงดีมั้ยละ” จูเลียตอบกลับฮาธาเวย์แบบ No สน No แคร์พร้อมกับเดินจากไป
หลังจากฮาธาเวย์บันทึกภาพเนินอกของจูเลียลงในความทรงจำโดยอัตโนมัติแล้ว เขาก็ส่งสัญญาณพร้อมออกตัวไปยังห้องบัญชาการของวาเรียนทันที
ทดสอบ XI [ Ξ ] Xi Gundam หรือ คซีกันดั้ม ใต้ท้องทะเล
“ปลดแฮทได้” ทันทีที่ได้สัญญาณออกตัว ก็เกิดเสียงดังใต้เท้าของฮาธาเวย์ เรียลดิสเพลเยอร์รอบห้องนักบินทำงาน ฉายภาพโดยรอบ 360 องศา XI [ Ξ ] Xi Gundam หรือ คซีกันดั้ม กำลังเคลื่อนตัวไหลไปตามรางส่งตัวท้างด้านท้ายของเรือวาเลี่ยน คซีกันดั้มค่อย ๆ จมลงสู่ทะเล ภาพจากเรียลดิสเพลเยอร์มีแต่ฟองอากาศสีขาวเต็มไปหมด ฮาธาเวย์รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะไม่เคยใช้งานกันดั้มใต้น้ำมาก่อน
ภายใต้ระดับความลึก 30 เมตรจากระดับน้ำทะเล ฮาธาเวย์ตรวจสอบระบบปิดผนึกอากาศและระบบบาเรียของกันดั้ม เพราะการดำลงใต้น้ำแบบนี้เป็นการทดสอบการรั่วไหลของอากาศได้ดีและเร็วที่สุด อีกทั้งยังสามารถทดสอบว่าบาเรียของคซีกันดั้ม สามารถทนต่อแรงดันน้ำลึกได้แค่ไหน นอกจากนี้ยังเป็นการทดสอบไปในตัวด้วยว่าบีมไรเฟิลและชิลด์ซึ่งติดตั้งอยู่ภายนอกโมบิลสูทจะแข็งแกร่งพอที่จะรับแรงกดดันน้ำได้หรือไม่ เพราะคซีกันดั้มนั้นพอสร้างเสร็จก็ถูกส่งลงมาที่โลกทันที ระบบต่าง ๆ เป็นเพียงสิ่งที่สร้างตามหลักทฤษฎีและหลักเเมคคานิค ยังไม่ได้ผ่านการทดสอบในสนามรบจริง ดังนั้นจึงต้องทดสอบกันหน้างานแบบนี้ หลังจากฮาธาเวย์ทดสอบจนแน่ใจแล้วว่าระบบต่าง ๆ ของกันดั้มไม่มีปัญหา ฮาธาเวย์ก็แร่งแรงขับดันของคซีกันดั้มเพื่อขึ้นไปเหนือน้ำ ในใจพลางคิดของคุณ จูเลียและทีมงาน ที่ห่ามรุ่งหามค่ำปรับแต่งระบบของคซีกันดั้มจนเสร็จ เมื่อลอยตัวขึ้นจนพ้นผิวน้ำทะเล ฮาธาเวย์ก็เร่งความเร็วเพื่อทำระดับความสูงไล่ตามกาเซซอนที่ออกตัวไปก่อนหน้า
หลังจากที่ปล่อยตัวกาเซซอลและกันดั้มออกปฎิบัติการแล้ว ทั้งซีลัคและวาเลียน ต่างแยกย้ายกันไปยังจุดเติมเสบียงที่กำหนดไว้ เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้สำหรับองค์กรขนาดเล็กอย่างมัฟตี้ ทั้งอะไหล่ ทั้งคน ทั้งทรัพยากรณ์ ล้วนมีจำกัด เมื่อออกปฎิบัติการครั้งหนึ่งแล้วก็ต้องรีบไปยังจุดเติมเสบียง โดยจุดเติมเสบียงได้ถูกกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วหลายจุด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน แม้มันจะเป็นการสิ้นเปลืองและแลดูยุ่งยาก แต่ในยุคสมัยที่การสื่อสารระยะไกลไม่สามารถทำได้เพราะการกระจายของอนุภาคไมนอฟสกีแล้ว มันก็เป็นอีกเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ฮาธาเวย์สมุ่งหน้าสู่โอเอนเบริ
แม้ว่าคซีกันดั้มจะเข้าใกล้ชายฝั่งของทวีปออสเตเลียเข้าไปทุกขณะ แต่ฮาธาเวย์กลับยังไม่สามารถหลุดพ้นจากความรู้สึดผิดอันหนักอึ้งจากผลของการกระทำของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นฮาธาเวย์ก็เชื่อมั่นว่าจะต้องได้พบกับ กิกิ เอนดาลูเชีย อีกครั้งอย่างแน่นอน
เป็นเวลากว่า 10 นาทีแล้วหลังจากออกตัวจากวาเลียน ขณะนี้คซีกันดั้มและกาเซซอน ทั้ง 3 ลำ กำลังบินด้วยเพดานบิน 150 เมตร เมื่อทุกลำเข้าสู่ช่องแคบแคลแรนซ์ ก็ได้ทำการลดระดับเพดานบินลงเพื่อหลบการตรวจจับของเรดาห์และมุ่งหน้าสู่โอเอนเบริจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากการคาดการณ์ของพวกฮาธาเวย์ หน่วยคิมเบอลี่ย์น่าจะตั้งแนวสกัดกองกำลังเสริมของมัฟตี้ไว้บริเวณทิศตะวันออกของโอเอนเบริ เพราะบริเวณนั้นนั้นมีแนวเขาเหมาะแก่การใช้เป็นแนวกำบังแล้วเข้าประชิดเมืองโอเอนเบริได้ทันที แต่ฮาธาเวย์กลับใช้แผนการบุกตรงกันข้าม คซีกันดั้มและกาเซซอนจะบุกเข้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบริเวณนี้เป็นพื้นที่ราบชุ่มน้ำ มีที่กำบังน้อย ถูกตรวจจับจากระยะไกลได้ง่าย เป็นทิศที่ไม่เหมาะกับการบุกเข้าตีที่สุด แต่ก็เป็นทิศที่คิมเบอลี่ย์น่าจะวางกำลังป้องกันไว้น้อยที่สุดเช่นกัน
หลังจากผ่าน 200 กิโลเมตรเหนือผิวทะเล คซีกันดั้มและกาเซซอนเข้าสู่พื้นที่ชุ่มน้ำ ตัวเมืองโอเอนเบริอยู่ห่างออกไปอีกไม่กี่สิบกิโลเมตร ฮาธาเวย์เร่งเครื่องคซีกันดั้มให้อยู่หน้ากระบวนทัพ เป็นสัญญาณพร้อมรบ
“เริ่มจากสังเกตการณ์ ประเมินฝ่ายตรงข้าม แล้วจึงเข้าปะทะ” ฮาธาเวย์ในฐานะเครื่องจ่าฝูงออกคำสั่งไปยังนักบินทุกคน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น แมสเซอร์ก็ดีดตัวออกจากกาเซซอนทั้งสามลำ ปฎิบัติการจู่โจมโอเอนเบริ ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว
สรุปเหตุการณ์ EP.5 เรื่องวุ่นวายของฮาธาเวย์สและการมุ่งหน้าสู้โอเอนเบริ
หลังจากรับตัว XI [ Ξ ] Xi Gundam หรือ คซีกันดั้ม มาได้ ฮาธาเวย์และมัฟตี้ก็มุ่งหน้าสู่โอนเอนเบริ ระหว่างทาง ฮาธาเวย์ก็ได้พบกับเเคเรีย เดส อดีตคนรักเก่า ทั้งที่แผนการดำเนินไปข้างหน้า แต่ฮาธาเวย์ก็ยังไม่สามารถตัดเรื่องของกิกิออกจากความคิดไปได้ ความสัมพันธ์แสนวุ่นวายของชายหนึ่งหญิงสองวิญญาณอีกหนึ่ง จึงเริ่มขึ้น เควสผู้เป็นรักแรก เคเรียผู้เป็นรักเก่า กิกิผู้เป็นรักครั้งใหม่ สำหรับการสรุปนิยายใน EP.5 เรื่องวุ่นวายของฮาธาเวย์สและการมุ่งหน้าสู้โอเอนเบริ ต้องจบลงตรงนี้ก่อนนะครับคาดว่าหลาย ๆ ท่านอาจกำลังสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมผมมาตัดจบตอนในขณะที่กำลังจะบวกกันแบบนี้ แต่ที่ผมจบตอนที่ตรงนี้เพราะในตอนหน้าจะได้เป็นเนื้อหาในส่วนของเมืองโอเอนเบริแบบจัดเต็มทั้งตอนครับ เลยขออนุญาตพ่อแม่พี่น้องทุกท่านจบตอนไว้ที่ตรงนี้ก่อน รับรองว่าใน EP.6 จะจัดเต็มให้อย่างแน่นอน และก่อนที่จะลาจากกันไป หากพ่อแม่พี่ร้องท่านใดมีข้อติชมก็สามารถคอมเม้นท์บอกกล่าวกันได้นะครับ พวกเราทีมงาน Gunpla Story พร้อมน้อมรับเพื่อนำไปปรับปรุงครับ และหากชอบการสรุปนิยายแบบนี้ก็ช่วยแชร์เพื่อเปนกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ และสุดท้ายนี้กระผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน ๆ ที่ติดตามนะครับ วันนี้กระผมต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ